Axie Infinity โดนแฮ็ค สูญเงินไปกว่า 2 หมื่นล้านกว่าบาท

Axie Infinity โดนแฮ็ค สูญเงินไปกว่า 2 หมื่นล้านกว่าบาท

เริ่มมีมาขึ้นเรื่อยกับการโจรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยในครั้งนี้ผู้เคราะห์ร้ายก็คือเกมส์ NFTs – Axie Infinity ที่สูญสินทรัพย์ไปเป็นมูลค่า 2 หมื่นล้านกว่าบาท (30 มี.ค. 2565) ถือว่าเป็นหนึ่งในการโจรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrencies) ล่าสุดที่เกิดขึ้นก็ว่าได้กับการแฮ็ค หรือใช้ช่องโหว่โจมตีขโมยสินทรัพย์ของเกมส์ Play-to-Earn NFTs – Axie Infinity โดยมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 600 กว่าล้านดอลลาร์ (2 หมื่นล้านกว่าบาท)

โดยการโจรกรรมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ถึง 29 มี.ค. 

ผ่านช่องโหว่ของ Ronin ระบบการเข้าถึงแบบไปกลับระหว่าง Ethereum blockchain และตัวเกมส์ (นี้คือการอธิบายแบบง่ายที่สุด) หรือ Sidechain ที่ซึ่งผู้ดำเนินการได้ใช้งาน “ช่องโหว่” ที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้พัฒนา ในการยักยอกเอา NFTs ที่เป็นตัวละครของเกมส์ไปได้ โดยมูลค่ารวมของตัวละครทั้งหมดอยู่ที่ 617 ล้านดอลลาร์ หรือ 20,755 ล้านบาท

ซึ่งก็มีข่าวดีที่ว่า สินทรัพย์ – เงินที่โดยยักยอกไปนั้น ยังคงพักอยู่ใน Wallet ของแฮ็คเกอร์อยู่ ทำให้ถือว่าง่ายต่อการกู้คืนมาได้ และคริปโตทั้งหมดที่อยู่ภายในระบบ Ronin ยังคงปลอดภัยดี แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ในเวลานี้

โดยทางทีมงานของตัวเกมส์ Sky Mavis นั้น กล่าวว่ากำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ และได้ทำการปิด Ronin bridge เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการโจมตีครั้งต่อไป และในอนาคต

ในส่วนของตัวเกมส์นี้นั้น มันเป็นเกมส์แนวลูกผสมระหว่าง Tamagotchi และ Pokémon ซึ่งทางผู้พัฒนาได้อธิบายว่า มันเป็นเกมส์แนวเลี้ยงสัตว์ดิจิทัล ที่ผู้เล่นสามารถเลี้ยง, นำมาใช้งานต่อสู้ระหว่างผู้เล่น และแลกเปลี่ยนกันได้

ASUS ได้เปิดเผยถึงผลการคาดการณ์ ราคาการ์ดจอ (GPU) ในช่วงนี้นั้น จะมีการลดลงไปได้มากสุดถึง 25% ผู้จัดจำหน่ายในประเทศอังกฤษก็เห็นพ้องด้วย

(29 มี.ค. 2565) หลังจากที่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ ราคาการ์ดจอ (GPU) ได้มีการเพิ่มขึ้นแบบพุ่งทยานแล้วนั้น เนื่องด้วยสาเหตุปัจจัยต่าง ๆ โดยมาในปี 2565 (2022) ราคาของสินค้าดังกล่าวก็ได้เริ่มมีการลดลงมาแล้วบ้าง ซึ่งก็มีการคาดกันไปต่าง ๆ นานา

และล่าสุดนี้ทางบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง ASUS นั้น ก็ได้คาดการณ์ว่า ราคาการ์ดจอ นั้น จะมีการลดราคาลงไปจากที่ตั้งอยู่ในตลาดเวลานี้ (ตามที่ได้กล่าวไว้กับ PC Gamer) และจากการเก็บข้อมูลของ 3DCenter ก็พบว่ามีการลดลงมากสุดถึง 25% ถึงแม้ว่าจะดูลดลงไม่มากเท่าไหร่ แต่สำหรับตลาดที่มีราคาสูงสุดมายาวนานถึงปีกว่า (15 เดือน) แล้วนั้น ก็ถือว่าดีที่สุดเท่าที่จะดีได้

เช่นเดียวกันกับบรรดาผู้จัดจำหน่ายภายในประเทศอังกฤษที่ก็เห็นพ้องว่า ราคาของการ์ดจอในเวลานี้จะเริ่มมีการลดลง – “ภายในช่วงปลายเดือนเมษายน และต้นเดือนพฤษภาคม พวกเราอาจจะได้เห็นถึงการกลับมาของราคาที่ดึงดูดให้น่าซื้อมากขึ้น (หรือก็คือช่วงราคาอยู่ในระกับที่พอจะจับต้องได้)”

นอกจากนี้แล้วนั้น ยังมีในส่วนของการปลดกำแพงภาษีการนำเข้าชิ้นส่วน/ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์จากประเทศจีนไปจนถึงสิ้นปีนี้ ที่ก็คาดได้ว่าจะเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งของการลดราคาด้วยเช่นกัน

หลุด! ภาพเรนเดอร์ ของ Samsung Galaxy Xcover Pro 2

กลับมาแล้วกับสมาร์ทโฟนรุ่นถึกทนของ Samsung – Galaxy Xcover ที่ได้มีการหลุดออกมาแล้วของ ภาพเรนเดอร์ ตัวเครื่องล่าสุด – Pro 2 (29 มี.ค. 2565) หลังจากที่มีการพูดถึงการกลับมาของ Samsung Galaxy Xcover สมาร์ทโฟนรุ่นถึกทนของบริษัท และเปิดเผยในส่วนของข้อมูลตัวเครื่องที่คาดว่าจะเป็นตัวล่าสุดของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ – Pro 2 ก็ได้มีการหลุดเพิ่มเติมออกมาในส่วนของ ภาพเรนเดอร์ หรือภาพจำลองของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้เราได้เห็นกัน

โดยภาพที่ว่านั้นก็เป็นภาพที่แสดงรายละเอียดที่มีฐานมาจาก CAD ซึ่งจากแหล่งข้อมูลนั้น ได้กล่าวว่า มันจะมีขนาดหน้าจอ 6.56 นิ้ว, ช่องสำหรับกล้องหน้ารูปหยดน้ำ (Infinity-V), เซนเซอร์แสกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง และช่องต่อหูฟัง 3.5 มม.

สัดส่วนของตัวเครื่องนั้นจะเป็นไปดังนี้ 169.5 x 81.1 x 10.1 มม. ซึ่งก็คาดกันว่ามันจะเป็นสมาร์ทโฟนในตัวรุ่น Xcover รุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายสัญญาณ 5G นอกจากนี้แล้วจากข้อมูลการทดสอบตัวเครื่อง ก็แสดงให้เห็นว่ามันจะใช้งานชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 778G แต่ก็แย้งกับข้อมูลที่มากับภาพจำลองที่ว่ามันจะใช้งาน Exynos 1280 

ซึ่งก็คาดการณ์ว่ามันจะยังคงสืบทอดวัฒนธรรมแบตเตอรี่ถอดได้ของรุ่นก่อนหน้านี้อยู่ และก็มีการลือกันมาว่ามันจะทำการวางขายภายในช่วงฤดูร้อนนี้ และจะใช้งาน Android 12 ตั้งแต่วันแรกด้วย

ติดตั้งกล้องหลังแบบคู่ วางตำแหน่งใหม่แนวเฉียง ที่ทุกตัวมีระดับความชัดสูงสุด 12 MP โดยแบ่งระยะต่าง ๆ ได้ดังนี้ กล้องหลัก Wide Angle ความละเอียดสูงสุด 12 MP, รูรับแสงกว้าง f1.6, ระบบกันสั่นแบบ sensor-shift stabilization IBIS, ระบบโฟกัสอัตโนมัติ PDAF / กล้องรอง Ultra Wide Angle ความละเอียดสูงสุด 12 MP, รูรับแสงกว้าง f2.4, ได้ภาพมุมกว้าง 120 องศา และกล้องหน้า Wide Angle ความระเอียดสูงสุด 12 MP

ทางด้านการดีไซน์ก็เหมือนกับโครงของ iPhone 12 Series แทบทุกอย่าง แต่วัสดุของ iPhone 13 Series จะมีการอัปเดตมาให้ทนทานยิ่งขึ้นด้วย Ceramic Shield เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง รองรับการใช้งานแบบลุย ๆ ได้เป็นอย่างดี

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า