กระทรวงแรงงาน สหรัฐฯ เผย ยอดตกงาน ต่ำสุด ในช่วงโควิด-19 ระบาด

กระทรวงแรงงาน สหรัฐฯ เผย ยอดตกงาน ต่ำสุด ในช่วงโควิด-19 ระบาด

ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดคนงาน ต่ำสุด นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน สำนักข่าว ABC รายงานว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐฯได้เปิดเผยว่ามีประชาชนมาขึ้นทะเบียนเป็น บุคคลว่างงาน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราวๆ 709,000 คน โดยจำนวนดังกล่าวถือเป็นจำนวนที่น้อยที่สุด นับตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

โดยขณะนี้ อัตราคนว่างานในสหรัฐฯ อยู่ที่ร้อยละ 6.9 ถือเป็นจำนวนเกือบเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้แม้ตัวเลขจะปรับตัวดีขึ้น แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศสหรัฐฯยังคงน่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามียอดผู้ป่วยใหม่และผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะรัฐเท็กซัส และ แคลิฟอร์เนีย ที่มียอดผูป่วยสะสมมากกว่า 1 ล้านราย

นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่าทางการสหรัฐฯอาจใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยใหม่ลง ย้อนกลับไปช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเคยเปิดเผยว่ามีประชาชนว่างานกว่า 6.9 ล้านราย ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตกงาน ถือเป็นจำนวนประชาชนตกงานที่ยื่นเรื่องพร้อมกันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ในประเทศอังกฤษก็มีรายงานเกี่ยวกับ ผลตรวจปลอม เช่นเดียวกัน โดยชายคนหนึ่งเล่าว่าเขาได้ใช้ผลตรวจปลอมของเพื่อนในการเดินทางไปยังประเทศปากีสถาน โดยเขานำผลตรวจของเพื่อนเขาและเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อตัวเอง

ซึ่งสาเหตุที่เขาต้องลงทุนทำขนาดนี้ เพราะ เขามีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปปากีสถาน แต่เขาไม่ใช่คนงานจำเป็น ทำให้เขาไม่สามารถเข้าประเทศได้

โดยนักเดินทางอีกคนที่ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อังกฤษเดียวกันก็เล่าว่า คนหนึ่งในครอบครัวของเขาคนหนึ่งจำเป็นต้องเดินทาง และต้องใช้ผลตรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้กล่าวกับเขาว่า เขาสามารถตรวจหาเชื้อให้ได้ และสามารถเปลี่ยนจากผลตรวจที่เป็นบวก ให้กลายเป็นลบได้ในราคาราว 2,000 บาท

เจ้าหน้าที่ทั่วโลกต่างยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ผลปลอมเล็ดลอดไปได้ และส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นซ้ำ

พ่อชาวจีน ตัดสินใจ ขายทารก ลูกชายตัวเองที่เพิ่งคลอดได้ไม่นาน เพื่อแลกกับเงินราว 7 แสนบาท เหตุตกงาน หลังโควิด-19 ระบาดอย่างหนัก เกิดเรื่องน่าเศร้าในประเทศจีน ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 เมื่อมีชายตกงานคนหนึ่งตัดสินใจ ขายทารก ลูกชายของตัวเองให้กับคนแปลกหน้า เพื่อแลกกับเงินประมาณ 700,000 บาท มาจุนเจือภรรยา และลูกชายที่เหลืออีก 2 คน

หลังจากนั้น ผู้รับซื้อเด็ก ได้ทำพฤติกรรมน่าสงสัย จนถูกตำรวจจับได้ที่สถานีรถไฟ เมืองเหอเฝย์ มณฑลอานฮุย  ก่อนที่จะสอบสวนถามข้อเท็จจริงจนยอมรับสารภาพในที่สุด

ซึ่งพ่อแม่ที่แท้จริงของทารกน้อย ก็สารภาพเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้เคยเกือบขายให้หญิงรายหนึ่งในราคาราว 4.5 แสนบาท แต่สุดท้ายดีลก็ล่มไป เนื่องจากพาไปแจ้งเกิดไม่ได้ ก่อนที่ผู้ซื้อคนปัจจุบันจะติดต่อเข้ามา และเสนอเงินให้มากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาค้ามนุษย์แก่พ่อแม่ที่แท้จริง และคนที่รับซื้อเด็กไปด้วย เบื้องต้นจะถูกจำคุก 5-10 ปี และถ้าหากสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ก็อาจเพิ่มโทษร้ายแรงถึงขนาดประหารชีวิตได้เลยทีเดียว

ตุรกี แบน สูบบุหรี่ ที่สาธารณะ สู้โควิด-19

ตุรกี ออกมาตรการสั่ง แบน สูบบุหรี่ เพื่อต่อสู้กับโรคโควิด-19 หลังจากที่ยอดผู้ป่วยต่อวันยังเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า ทางการตุรกีสั่ง แบน สูบบุหรี่ ในพื้นที่สาธารณะ หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงน่ากังวลอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่าคำสั่งดังกล่าว เล็งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย และเตือนให้ประชาชนทำตามคำสั่งดังกล่าว โดยคำสั่งนี้จะเริ่มใช้วันที่ 12 พฤศจิกายน

ด้านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้ทวีตข้อความร้องขอให้ประชาชนปฏิบัติเว้นระยะห่างทางสังคม และ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่มา ทางการตุรกีสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนที่มีอายุมากกว่า 65 ปีออกเคหสถานในช่วงเวลา 10.00 น. จนถึง 16.00 น. พร้อมทั้งสั่งให้ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และร้านค้าต่างๆ ปิดให้บริการในช่วงเวลา 22.00 น.

ขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมโรค โควิด-19 มากกว่า 400,000 รายในประเทศตุรกี และ มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 11,000 ศพ ทั้งนี้ตัวเลขจริงอาจจะสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากทางการตุรกีนับเฉพาะ ผู้ป่วยที่แสดงอาการเท่านั้น

จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศถือเป็นเรื่องยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ฮ่องกง-สิงคโปร์ เตรียมอนุญาตให้เข้าประเทศได้ โดยไม่ต้อง กักตัว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่าทางการฮ่องกงและสิงคโปร์ เตรียมอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าประเทศได้ โดยไม่ต้องเข้ารับกักตัวในวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ โดยทางการกล่าวว่าจะมีเที่ยวบินเข้าเมืองเพียงเมืองละเที่ยวบินเท่านั้น และจะเพิ่มขึนเป็น 2 เที่ยวบินในวันเดือนธันวาคม ทั้งนี้ห้ามมีผู้โดยสารเกิน 200 คนในเที่ยวบิน

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า