ประวัติ “กิติกร อินต๊ะ” ซีอีโอ พีมายเนอร์ จากนักลงทุนเทรดคริปโต สู่แชร์ลูกโซ่ตั้งรางวัลนำจับ

ประวัติ “กิติกร อินต๊ะ” ซีอีโอ พีมายเนอร์ จากนักลงทุนเทรดคริปโต สู่แชร์ลูกโซ่ตั้งรางวัลนำจับ

ทำความรู้จักประวัติของ กิติกร อินต๊ะ คือนักธุรกิจและนักลงทุนเหรียญคริปโตฯ เจ้าของบริษัท พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป (P miner Cryptocurrency) ที่มักจะโพสต์รูปภาพชีวิตไฮโซหรูหราพร้อมอวดเครื่องใช้ราคาแพงที่ตนอ้างว่ามาจากความสำเร็จในธุรกิจสกุลเงินดิจิทัลลงบนเฟสบุ๊กส่วนตัว

ก่อนที่เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 

จะมีกลุ่มผู้เสียหายจากการถูกนายกิติกร อินต๊ะ หลอกให้ลงทุนเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เข้าแจ้งความคดีแชร์ลูกโซ่กับทางศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 5 เชียงใหม่ (DSI) ซึ่งประเมินมูลค่าความเสียหายสูงหลายพันล้านบาท

กระทั่งในวันที่ 30 สิงหาคม 2565 นายกิติกร อินต๊ะ ซีอีโอบริษัทพีมายเนอร์กรุ๊ป ได้ถูกตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ายึดทรัพย์ที่บ้านพักของกิติกร อินต๊ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบตัว เป้ กิติกร และครอบครัวภายในบ้าน

อย่างไรก็ตามทีมงานเดอะไทยเกอร์จะขอพาผู้อ่านย้อนประวัติของ กิติกร อินต๊ะ นักลงทุนเหรียญอิเล็กทรอนิกส์ ที่ประสบความสำเร็จจากการเทรดสกุลเงินดิจิทัล จนก่อร่างสร้างตัวซื้อรถหรู บ้านหลังใหญ่ และสิ่งของเครื่องใช้ราคาแพงจำนวนมากที่เขามักโพสต์ลงบนเฟสบุ๊ก

สำหรับประวัติของนายเป้ กิติกร หรือกิติกร อินต๊ะ คือซีอีโอเจ้าของ บริษัท พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป (P miner Cryptocurrency) มีประวัติการศึกษาที่เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฏหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้เริ่มต้นจนทะเบียนห้างหุ้นส่วน พีมายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป ด้วยเงินทุนมากถึง 500,000 บาท เมื่อปี 2562

จากนั้นไม่นานในปี 2565 ห้างหุ้นส่วน พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป ก็ได้เติบโตอย่างรวดเร็วและทำการจดทะเบียนบริษัท ด้วยเงินทุนจดทะเบียนอีก 500,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการรับจ้าง รับจดทะเบียนชื่อโดเมน และออกแบบเว็บไซต์

นอกจากนี้นายกิติกร อินต๊ะ ก็มักจะโพสต์ภาพหรือแชร์ข้อความเกี่ยวกับลงทุนสกุลเงินดิจิทัล พร้อมกับแชร์ชีวิตความเป็นอยู่สุดหรูหราฟุ่มเฟื่อย โดยเจ้าตัวอ้างว่าเป็นผลจากการลงทุนเหรียญดิจิทัล

อย่างไรก็ตามนายกิติกร อินต๊ะ มักจะมีการชวนผู้ร่วมลงทุนโดยอ้างว่าจะนำเงินเหล่านั้นไปขุดเหรียญคริปโตฯ แล้วนำกำไรที่ได้มาแจกคืนทุกคนในรูปแบบของเงินปันผลเดือนละ 14,500 บาท

พัฒนาจนเป็นกลุ่มวีไอพีที่ต้องเสียค่าสมาชิกแรกเข้ามากถึง 19,000 บาท แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนกับนายกิติกร อินต๊ะเป็นจำนวนมาก

กบง. เผยลุ้นงบ 8 พันล้าน หนุน ‘ค่าไฟฟ้า’ ถ้าไม่ทันต้องเก็บ 4.72 บาท/หน่วย

คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เผยมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือ ค่าไฟฟ้า 8 พันล้านบาท ผ่านทางกระทรวงมหาดไทย ถ้าหากยื่นให้อนุมัติไม่ทันแล้วนั้น ก็ต้องยังจัดเก็บในอัตรา 4.72 บาท/หน่วย

(30 ส.ค. 2565) กระทรวงพลังงาน ได้ทำการเปิดเผยความคืบหน้าของการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) โดยมีมติเห็นชอบให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าในส่วนของ ค่าไฟฟ้า ภายใต้งบประมาณ 8,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 4 เดือน

ทั้งนี้แล้วนั้นการนำเสนอมาตรการดังกล่าวต่อที่ประชุม ครม. นั้น จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากเป็นเจ้ากระทรวงที่ดูแลรับผิดชอบการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่จะต้องนำเสนอไปยังสำนักงบประมาณเพื่อของบประมาณ ก่อนที่จะส่งต่อไปยังที่ประชุม ครม. เพื่อดิจารณาอนุมัติต่อไป

มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อช่วยลดค่า FT ในรอบ 4 เดือนของปีนี้ โดยคาดหวังให้ทาง ครม. ทำการพิจารณาโดยเร็วเพื่อที่จะเตรียมตัวจัดการบิลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภายในวันนี้ ซึ่งมีการนำเข้าที่ประชุม และพิจารณาล่าช้าก็จะส่งผลต่อผู้ใช้งานที่จะต้องแบกรับภาระค่าไฟตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เป็นมูลค่า 4.72 บาท/หน่วย เนื่องจากทาง กกพ. เองก็ได้มีการประกาศปรับขึ้นค่า FT ไปแล้วก่อนหน้านี้

สำหรับตัวเลขส่วนลดแบบขั้นบันไดในอัตรา 15-75% สำหรับกลุ่มผู้ที่ใช้งานไฟฟ้าในปริมาณ 301-500 หน่วยต่อเดือนนั้น ก็เป็นไปดังต่อไปนี้

– กรณีที่ใช้งานไฟฟ้าในปริมาณ 301-500 หน่วยต่อเดือน จะได้รับส่วนลด 75% ของค่า FT (51.50 สตางค์/หน่วย)

– กรณีที่ใช้งานไฟฟ้าในปริมาณ 351-400 หน่วยต่อเดือน จะได้รับส่วนลด 45% ของค่า FT (30.90 สตางค์/หน่วย)

– กรณีที่ใช้งานไฟฟ้าในปริมาณ 401-500 หน่วยต่อเดือน จะได้รับส่วนลด 15% ของค่า FT (10.30 สตางค์/หน่วย)

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า